*คาดว่ามีสปอยนะคะยู*
The Witch (2015) / The VVitch: A New-England Folktale
Directed by Robert Eggers
Cast: Anya Taylor-Joy, Ralph Ineson, Kate Dickie and Harvey Scrimshaw
ครอบครัวเล็กๆที่มาตั้งถิ่นฐานใน นิว อิงแลนด์ ราวๆปี1630 ความศรัทธาอันแรงกล้าเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวเดียวที่ทำให้พวกเขาดำเนินชีวิตท่ามกลางป่าเขาแห่งนี้ แต่แล้วเหตุการณ์ก็เริ่มเลวร้ายลงเรื่อยๆเมื่อสมาชิกแรกเกิดของครอบครัวได้หายตัวไป พืชผลเริ่มล้มตาย ความสิ้นหวังส่งให้พวกเขาสวดภาวนาอ้อนวอน เพื่อขอให้เรื่องชั่วร้ายจาก "แม่มด" ผ่านพ้นไป
ชอบวิธีเขียน VVitch ของหนังมากนะ (ชื่อเต็มที่ใช้ในบางประเทศคือ The VVitch: A New-England Folktale) มันกิ๊บเก๋และให้อารมณ์เหมือนคำสาปโลกโบราณดี
สารภาพว่าสนใจเรื่องนี้ตั้งแต่ที่มีข่าวในเทศกาลหนังซันแดนซ์เมื่อปีที่แล้ว กว่าหนังจะท่องเทศกาลทั่วโลกแล้วได้ฉายจริงก็เมื่อต้นปีที่ผ่านมา (และกว่าจะเข้าบ้านเราอีก) สุดท้ายก็พลาดและไม่ได้ดูในโรงเลย
หนังเดินเรื่องเรื่อยๆ แต่เผยเหตุการณ์สำคัญแรกอย่าง ซีนที่เด็กทารกหายตัวไปตั้งแต่10นาทีแรกของหนัง จากนั้นความพีคก็มันก็เริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆๆๆๆ ตามสเต็ปการล่อลวงของแม่มดและความชั่วร้ายที่เริ่มครอบงำครอบครัวแสนศรัทธาครอบครัวนี้ ความเจ๋งของมันคือการดึงให้คนดูศตวรรษที่21อย่างเราๆ เข้าไปอยู่ในช่วงเวลาของโลกในศตวรรษที่17ได้อย่างแนบเนียน ทั้งเรื่องดราม่าในครอบครัว ความน่าหวาดกลัวของมนุษย์กับผืนป่าที่ไม่ว่าจะเวลาไหนก็สร้างความขนลุกได้ตลอดเวลา มันเงียบ มันวังเว มันชวนขนลุก
คือก็ไม่มีคนยุคนั้นเหลืออยู่ให้บรรยายบรรยากาศของโลกในยุคนั้นน่ะนะ แต่เดาว่าเรื่องนี้คือใกล้เคียงความเป็นจริงที่สุด จากคำบอกเล่าแบบนิทานพื้นบ้านของยุคมืดที่เต็มไปด้วยความกลัวของมนุษย์กับธรรมชาติที่ไม่รู้จักอะไรแบบนั้น เราไม่มีวันรู้ได้เลยว่าอะไรซ้อนตัวอยู่ในป่า จะก้าวขาเข้าไปดูก็ไม่กล้า พอกล้าเดินเข้าไปดูแล้วไปป๊ะกับปัญหาก็งานเข้าเลยจ้า มันก็แบบ...ถ้าไม่เจอสัตว์ป่าดุร้าย(แล้วตาย) ก็เจอสิ่งเหนือธรรมชาติ(ซึ่งก็ทำให้เราตายได้เช่นกัน)
จะว่าไปนิทานพื้นบ้านมันก็มีเส้นแบ่งบางๆให้เชื่อแหละว่า ภูตผีปีศาจแม่มดวิญญาณ มันมีจริง กับ! เรื่องแต่งทั้งเพ เพื่อให้เด็กๆกลัวและไม่เข้าไปซนในป่าจนหาเรื่องใส่ตัว
เพราะงั้น The Witch น่าจะเป็นแนว "เรื่องลี้ลับมันมีจริงนะเออ แล้วยิ่งเล่นกับครอบครัวที่ศรัทธาในพระเจ้าขนาดนี้แล้ว มันก็ยิ่งเพิ่มความน่ากลัวเข้าไปอีก แต่นี่แหละคือสิ่งที่คนดูอยากจะเห็น เรื่องเหนือธรรมชาติที่หลายๆคนเลือกที่จะเชื่อว่ามันเคยมีตัวตน
*สปอย* (ขอเตือนว่าทฤษฎีคิดเองเออเองทั้งนั้น ฮ่าๆๆๆ)
แต่ในอีกแง่นึงแบบตัดเรื่องความเหนือธรรมชาติมนต์ดำออกไปนะ
จะมองว่า The Witch เป็นดราม่าครอบครัวก็ได้ คือเด็กทารกหายตัวไป ลูกชายคนโตโดนล่อลวงจนหลอน ฝาแฝดก็เข้าข่ายโดนผีเข้า ทั้งหมดทั้งมวลนี้สามารถชี้หน้าเป็นความผิดของ ลูกสาวคนโตได้ทั้งสิ้น นางอาจจะเอาเด็กไปฆ่าในป่าเอง ล่อลวง(ลวนลาม)น้องชายตัวเอง วางยาเด็กแฝดแล้วฆ่าเมื่อสบโอกาส
แม่มันกล่าวหาว่านางพยายามยั่วพ่อตัวเอง(จากคำกล่าวหาเรื่องสายตาที่เธอจ้องมองพ่อ) ส่วนอิพ่อก็ปกป้องลูกสาวจากคำกล่าวหาร้ายๆอีก ยิ่งทำให้อิแม่มันเดือดกว่าเดิม และยอมรับอย่างเต็มปากว่า "อีนี่มันเป็นแม่มด!!" นี่เข้าตำราการกล่าวหาหญิงสาวคนนึงว่าเป็นแม่มดสุดๆเลยนะตัวเธอ
คือจริงๆก็น่าคิดนะว่ามันอาจไม่มีมนต์ดำอะไรก็ได้ คือนางอาจจะไปเมาเห็ดพิษในป่าเลยก่อเรื่องไรงี้
(พอๆ เป็นอันจบทฤษฎีคิดเองเออเองแต่เพียงเท่านี้ ฮ่าๆ เดี๋ยวจะเลอะเทอะไปใหญ่)
แต่ที่ว่าไปก็ไม่ได้อธิบายนะว่า บีบนมแพะออกมาเป็นเลือดได้ยังไง(อาจจะป่วยงี้) พืชผลตายเกรี้ยง หรือเรื่องร้ายๆอื่นๆ...
โอเค เชื่อก็ได้ว่าเป็นแม่มด ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ
ส่วนอื่นๆของหนังคือลงตัวมาก บทพูดภาษาโบราณ จังหวะซีนต่อซีนก็ดี ซาวน์ประกอบและงานภาพหลอนๆ ทั้งหมดคือขบเน้นความน่าขนลุกได้โคตรดี แถมยังคงโทนอารมณ์เดิมได้ตั้งแต่ต้นจนจบเลย
แฟนหนังสยองขวัญแบบหลอนลึก(ที่แบบผีไม่โผล่ทำให้ตกใจ) น่าจะชอบนะ
อีกอย่างที่ต้องชมคือนักแสดง โดยเฉพาะลูกชายคนโต (นักแสดงชื่อ Harvey Scrimshaw) คือเล่นเก่งและหลอนมากสำหรับซีนสุดท้ายของน้อง
สำหรับเราซึ่งชอบเสพหนังหลอน (จงนับว่าเจอคำว่า "หลอน" กี่คำแล้ว ฮ่่าๆๆๆ)
10/10 เลย
มันหลอน มันพีค มันว้าวมาก (ดูจบบอกเลยว่า ว้าว จริงๆ)
ก็บ่นพึมพำ-งึมงำไปเรื่อยเปื่อย ส่วนมากก็ดูหนังแล้วอยากบ่น ไปเที่ยวบ้าง ตามแต่อารมณ์และสถานการณ์ =/\=
วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
ดูแล้วบ่น: Freaks of Nature (2015)
Freaks of Nature (2015)
Directed by Robbie Pickering
Cast: Nicholas Braun, Mackenzie Davis and Josh Fadem
ชีวิตแสนสงบสุขของ มนุษย์ แวมไพร์ และซอมบี้ ในเมืองเล็กๆชื่อ ดิลล์ฟอร์ด กำลังจะกลายเป็นฝันร้ายเมื่อความขัดแย้งทำให้ชาวเมืองทะเลาะกันเอง แต่ท้ายที่สุดก็กลายเป็นว่าทุกคนต้องหนีเอาชีวิตรอดเมื่อถูกเอเลี่ยนส์บุกเมือง ตอนนั้นเองที่วัยรุ่น3คน ประกอบด้วย แด๊ก(มนุษย์) แพทรา(แวมไพร์) และ เนด(ซอมบี้) ต้องจับมือกันวางแผนขับไล่เอเลี่ยนส์และกอบกู้ความสงบของเมืองกลับคืนมา
เอาจริงๆคือไม่รู้ว่าหนังเรื่องนี้มีตัวตนเลยจนกระทั่งวันก่อนเปิดทีวีทิ้งไว้แล้วมันวนมาฉายพอดี ชื่อเรื่องก็ไม่รู้เพราะนอนอ่านหนังสืออยู่ แต่ที่มันดึงดูดความสนใจคือเปิดมา ตัวละครสองคนวิ่งหนีกองทัพแวมไพร์ หนีเข้าบ้านมาป๊ะกับกองทัพซอมบี้ ตะลุมบอนกันเสร็จ เจอเอเลี่ยนส์บุกอีก... เท่านั้นแหละ วางหนังสือแล้วตั้งใจดูทันที ฮ่าๆๆๆ
หนังออกแนวตลกกวนๆคล้ายกับหนังประเภทแบบ Scouts Guide to the Zombie Apocalypse หรือ Cooties อะไรแบบนั้น แต่มันไม่ได้มีแค่ซอมบี้ผีดิบอย่างเดียว และประเด็นของมันไม่ได้อยู่ที่การเอาชีวิตรอดจากเชื้อโรคระบาด แต่แน่นอนว่าความกวนทีนไม่แพ้กันเลย
เรื่องนี้หลักๆแล้วเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันของสามเผ่าพันธุ์(ประหลาด) มากกว่า ส่วนเอเลี่ยนส์เป็นตัวร้ายที่บุกมาเก็บทรัพยากรบางอย่าง จนกลายเป็นการจุดชนวนให้พวกคนในเมืองตีกัน
จริงๆมันก็คือประเด็นเดียวกับความขัดแย้งในสังคมที่เห็นได้ทั่วไปนั่นแหละ แต่หนังมันทำออกมาให้เห็นชัดในรูปแบบของ แวมไพร์ กับ ผีดิบนั่นเอง
โดยส่วนตัวชอบคาแร็กเตอร์ของผีดิบเรื่องนี้นะ คือมันเป็นตัวแทนของความไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ใครจะแกล้งจะทะเลาะจะกวนประสาทยังไงก็เฉยชา วันๆคิดแต่จะกินสมองแค่นั้นก็แฮปปี้แล้ว (อยากเป็นซอมบี้ขึ้นมาในทันที) ที่ชอบคือมันกลายเป็นที่พักพิงของเด็กเก่งที่มีปัญหากับที่บ้าน เป็นเพอร์เฟคชั่นนิสแต่โดนสังคมกลั่นแกล้งและไม่ให้ความเคารพ
ไอ้เด็กที่ว่านี่ก็คือ เนด หนึ่งในวัยรุ่นตัวเอก3คน ที่เป็นซอมบี้นั่นเอง
ที่เจ๋งของ Freaks of Nature คือการจับ แวมไพร์ ซอมบี้ และ เอเลี่ยนส์ มายำรวมกันเป็นเรื่องเดียวแล้วมันออกมาดีซะด้วย ลักษณะมันคล้ายๆหนังเกรดบีโบราณผสมหนังวัยรุ่นยุคใหม่ สองอารมณ์นี้แหละที่ทำให้มันเจ๋ง แถมบทพูดแต่ละอันนี้ตลกร้ายจนบางอันต้องกุมขมับเลย
อีกสิ่งที่กิ๊บเก๋สำหรับเรื่องนี้คือนักแสดง ตัวเด็นๆ3คนอย่าง Nicholas Braun, Mackenzie Davis and Josh Fadem ถือเป็นดารารุ่นใหม่ที่มีระดับความดังไม่มากไม่น้อย (ฉันเคยดูผลงานของ Braun มา 2-3 เรื่องแหละ คาแร็กเตอร์ก็เดิมๆประมาณนี้ ถือไม่ว่าแปลกใหม่ ส่วน Mackenzie Davis เรื่องนี้คือน่ารักนะ สวยมาก)
แต่ที่มันส์กว่าตัวเอก3คนก็คือดาราประกอบ ที่มีทั้ง รุ่นเก๋า Denis Leary, Joan Cusack, Bob Odenkirk คุณพี่ ซอล กู๊ดแมน ทนายตัวแสบจากจักรวาล Braking Bad! เรื่องนี่เมากัญชาทั้งวันเลยจ้า แล้วก็มีสาว Vanessa Hudgens นางเอก High School Musical อดีตแฟน Zac Efron ที่เรื่องนี้เล่นได้แรดมาก ฮ่าๆๆๆ
โดยรวมแล้ว หนังเจ๋งหนังดี ใครที่ชอบหนังซอมบี้(แวมไพร์ เอเลี่ยนส์) สายฮา คือดีมากเรื่องนี้
9/10
เจ๋งมาก ชอบ
Directed by Robbie Pickering
Cast: Nicholas Braun, Mackenzie Davis and Josh Fadem
ชีวิตแสนสงบสุขของ มนุษย์ แวมไพร์ และซอมบี้ ในเมืองเล็กๆชื่อ ดิลล์ฟอร์ด กำลังจะกลายเป็นฝันร้ายเมื่อความขัดแย้งทำให้ชาวเมืองทะเลาะกันเอง แต่ท้ายที่สุดก็กลายเป็นว่าทุกคนต้องหนีเอาชีวิตรอดเมื่อถูกเอเลี่ยนส์บุกเมือง ตอนนั้นเองที่วัยรุ่น3คน ประกอบด้วย แด๊ก(มนุษย์) แพทรา(แวมไพร์) และ เนด(ซอมบี้) ต้องจับมือกันวางแผนขับไล่เอเลี่ยนส์และกอบกู้ความสงบของเมืองกลับคืนมา
เอาจริงๆคือไม่รู้ว่าหนังเรื่องนี้มีตัวตนเลยจนกระทั่งวันก่อนเปิดทีวีทิ้งไว้แล้วมันวนมาฉายพอดี ชื่อเรื่องก็ไม่รู้เพราะนอนอ่านหนังสืออยู่ แต่ที่มันดึงดูดความสนใจคือเปิดมา ตัวละครสองคนวิ่งหนีกองทัพแวมไพร์ หนีเข้าบ้านมาป๊ะกับกองทัพซอมบี้ ตะลุมบอนกันเสร็จ เจอเอเลี่ยนส์บุกอีก... เท่านั้นแหละ วางหนังสือแล้วตั้งใจดูทันที ฮ่าๆๆๆ
หนังออกแนวตลกกวนๆคล้ายกับหนังประเภทแบบ Scouts Guide to the Zombie Apocalypse หรือ Cooties อะไรแบบนั้น แต่มันไม่ได้มีแค่ซอมบี้ผีดิบอย่างเดียว และประเด็นของมันไม่ได้อยู่ที่การเอาชีวิตรอดจากเชื้อโรคระบาด แต่แน่นอนว่าความกวนทีนไม่แพ้กันเลย
เรื่องนี้หลักๆแล้วเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันของสามเผ่าพันธุ์(ประหลาด) มากกว่า ส่วนเอเลี่ยนส์เป็นตัวร้ายที่บุกมาเก็บทรัพยากรบางอย่าง จนกลายเป็นการจุดชนวนให้พวกคนในเมืองตีกัน
จริงๆมันก็คือประเด็นเดียวกับความขัดแย้งในสังคมที่เห็นได้ทั่วไปนั่นแหละ แต่หนังมันทำออกมาให้เห็นชัดในรูปแบบของ แวมไพร์ กับ ผีดิบนั่นเอง
โดยส่วนตัวชอบคาแร็กเตอร์ของผีดิบเรื่องนี้นะ คือมันเป็นตัวแทนของความไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ใครจะแกล้งจะทะเลาะจะกวนประสาทยังไงก็เฉยชา วันๆคิดแต่จะกินสมองแค่นั้นก็แฮปปี้แล้ว (อยากเป็นซอมบี้ขึ้นมาในทันที) ที่ชอบคือมันกลายเป็นที่พักพิงของเด็กเก่งที่มีปัญหากับที่บ้าน เป็นเพอร์เฟคชั่นนิสแต่โดนสังคมกลั่นแกล้งและไม่ให้ความเคารพ
ไอ้เด็กที่ว่านี่ก็คือ เนด หนึ่งในวัยรุ่นตัวเอก3คน ที่เป็นซอมบี้นั่นเอง
ที่เจ๋งของ Freaks of Nature คือการจับ แวมไพร์ ซอมบี้ และ เอเลี่ยนส์ มายำรวมกันเป็นเรื่องเดียวแล้วมันออกมาดีซะด้วย ลักษณะมันคล้ายๆหนังเกรดบีโบราณผสมหนังวัยรุ่นยุคใหม่ สองอารมณ์นี้แหละที่ทำให้มันเจ๋ง แถมบทพูดแต่ละอันนี้ตลกร้ายจนบางอันต้องกุมขมับเลย
อีกสิ่งที่กิ๊บเก๋สำหรับเรื่องนี้คือนักแสดง ตัวเด็นๆ3คนอย่าง Nicholas Braun, Mackenzie Davis and Josh Fadem ถือเป็นดารารุ่นใหม่ที่มีระดับความดังไม่มากไม่น้อย (ฉันเคยดูผลงานของ Braun มา 2-3 เรื่องแหละ คาแร็กเตอร์ก็เดิมๆประมาณนี้ ถือไม่ว่าแปลกใหม่ ส่วน Mackenzie Davis เรื่องนี้คือน่ารักนะ สวยมาก)
แต่ที่มันส์กว่าตัวเอก3คนก็คือดาราประกอบ ที่มีทั้ง รุ่นเก๋า Denis Leary, Joan Cusack, Bob Odenkirk คุณพี่ ซอล กู๊ดแมน ทนายตัวแสบจากจักรวาล Braking Bad! เรื่องนี่เมากัญชาทั้งวันเลยจ้า แล้วก็มีสาว Vanessa Hudgens นางเอก High School Musical อดีตแฟน Zac Efron ที่เรื่องนี้เล่นได้แรดมาก ฮ่าๆๆๆ
โดยรวมแล้ว หนังเจ๋งหนังดี ใครที่ชอบหนังซอมบี้(แวมไพร์ เอเลี่ยนส์) สายฮา คือดีมากเรื่องนี้
9/10
เจ๋งมาก ชอบ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)