วันพฤหัสบดีที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ดูแล้วบ่น: Dark Places (2015)

*สปอยแรงๆ*
Dark Places (2015)
Directed by Gilles Paquet-Brenner
Cast: Charlize Theron, Nicholas Hoult, Christina Hendricks, Corey Stoll, Tye Sheridan and Chloe Grace Moretz

นิยายของ Gillian Flynn ผู้แต่ง Gone Girl (เรื่องนี้นางเขียนบทด้วย)

คดีสะเทือนขวัญฆ่ายกครอบครัวเมื่อ25ปีก่อนยังคงหลอกหลอน Libby Day พยานเพียงคนเดียวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ในคืนนั้น และก็เป็นเธอนั่นแหละที่ให้การว่าพี่ชายของเธอ Ben Day คือฆาตกรผู้ฆ่าแม่และพี่น้องคนอื่น ทว่าเมื่อเธอได้ไปเข้าร่วมกลุ่มนักสืบอาสา The Kill Club ที่กำลังรื้อคดีนี้กันอีกครั้ง Libby กลับพบข้อสงสัยบางอย่างที่อาจเปลี่ยนเรื่องราวในอดีตไปโดยสิ้นเชิง

เล่าเรื่องเยอะก็จะไม่สนุก ไม่เล่าอะไรเลยก็จะงงกันเข้าไปใหญ่ ยิ่งตอนแรกยิ่งงงเลย ทำไมอีนี่ต้องอยากกลับไปรื้อคดีที่มันไม่อยากจำ อ๋อ นางจะเอาเงิน ฮ่าๆๆๆ

เดี๋ยวๆ...ไม่เกี่ยวละ

เข้าเรื่องที่จะบ่นดีกว่า
จริงๆชอบเรื่องนี้นะ ฉันว่าเนื้อหามันดูเดาง่ายกว่า Gone Girl ไม่เครียดเท่าไหร่
แต่ก็อย่างว่าแหละ เดาง่ายเกินไปก็กลายเป็นจุดด้อยของนิยายหรือหนังแนวๆนี้ เทียบชั้นกับ Gone Girl ลำบากทีเดียว ถ้าอยากจะสนุกกับเรื่องราว ไปอ่านนิยายดีกว่าดูหนังนะเรื่องนี้(พูดเหมือนอ่านแล้ว ยัง! ...แต่เดี๋ยวจะหามาอ่าน) เห็นชัดเลยว่าฝีมือ Gilles Paquet-Brenner สู้ David Fincher ไม่ได้จริงๆ คนละชั้นสุดๆ

เม้ามอย: พอดีวันก่อนไปเจอคลิปรวมผลงาน Fincher วิธีเล่าเรื่อง วิธีใช้มุมภาพ สไตล์การถ่ายทอดเรื่องราวภาพซีนพูดคุยแค่ซีนเดียว คือแบบ ทรงพลังอลังการมากกก (ตัวอย่างที่เขายกมาคือ Se7en, Girl with Dragon Tattoo, Social Network, Panic Room, Zodiac และ Benjamin Button ...งานเด่นๆงามๆทั้งนั้นเลย)

สรุปง่ายๆก็คือ Dark Places ฉบับหนัง สู้ Gone Girl ไม่ได้ทั้งความซับซ้อนของเรื่อง ความร้ายของตัวการหลัก และโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาษาภาพยนตร์ คนละเรื่องกันเลยยยยยยยยยยย

แต่ก็อีกแหละ ถ้าให้ Fincher มากำกับ Dark Places ...คงไม่น่าจะดีนะ คิดว่าคงจะเครียดเกินไป Dark Places มันออกจะมีโมเม้นมุ้งมิ้งระหว่างพี่น้องเล็กน้อย ประเด็นที่เป็นจุดพีคก็เอามาเล่นได้ไม่เยอะเท่าอีกเรื่อง

ดังนั้นถ้าดูแบบไม่เปรียบเทียบงานก่อนหน้าอย่าง Gone Girl (มันแย่ตรงที่มีเรื่องก่อนหน้ามาให้เปรียบนี่แหละ)
Dark Places จัดว่าดีนะ โอเคทีเดียว ชอบ Charlize Theron บทนี้ นางเล่นเบาไปหน่อยไม่เหมือนงานก่อนๆ(เทียบอีกละ) แต่ก็โอเค เหมาะกับบุคลิกLibbyดี นางไม่ใช่พวกโวยวายเว่อวัง ดูจะเป็นทอมด้วยซ้ำ แต่หนังก็ไม่ได้พูดถึงรสนิยมทางเพศของนางขนาดนั้น ซึ่งดี โฟกัสแค่เรื่องคดีก็ดูจะลำบากละ

อีกนางที่ต้องชมคือหนู Chloe Grace Moretz นางเล่นดีนะเรื่องนี้ สวยร้ายโรคจิตนิดๆ แต่มีความเป็นมนุษย์(ที่เห็นแก่ตัว) มากเกินปกติมันเลยดูน่าตบเป็นพิเศษ (เอ๊ะ?)
Nicholas Hoult เรื่องนี้ไม่เด่นมาก แต่โผล่มาทีไรก็สู้กับ Charlize ได้สู่สีอยู่ แต่เห็นแล้วตลกๆอยู่เหมือนกัน เพราะก่อนหน้านี้ ทั้งคู่เจอกันใน Mad Max: Fury Road ละบทมันคนละเรื่องเลยน่ะ เลยแลดูแปลกๆ แต่ก็โอเค๊ (เสียงสูงไปมั้ย)

(ต่อจากนี้ อาจเผลอสปอยโดยไม่รู้ตัว ถ้าอ่านเจอขออภัย =/\=)

เอาละ มาถึงช่วง: ประโยคเด็ด คัดมาแล้ว!
"You don't know shit about what happened that night."

คือเป็นประโยคที่ทั้งนางเอก พี่ชาย และพ่อ มันพูด (คำที่ใช้ต่างกันเล็กน้อยตามสถานการณ์ มีเติม F. word บ้าง) แต่ที่ยกมาคือซีนที่นางเอกพูดตอนเจอกับ The Kill Club แล้วโดนบีบจากคนในคลับ ละนางเลยหันไปด่า แกไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกะคืนนั้น!! (แปลห่วยแตกมาก) คือ ก็ถูกของนาง ไม่มีใครรู้อะไรเลยเกี่ยวกับคืนนั้น ละคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้น? จริงๆนางก็ไม่รู้ไง ฮ่าๆๆๆ
Libby ทำตัวเหมือนจะรู้ทุกอย่างดี สุดท้ายแล้วนางก็ไม่รู้ นี่ฉันยังสงสัยอยู่เลยว่าตอนให้การคือนางอยู่ในอาการช็อค หรือว่าโดนใครบังคับให้พูดกล่าวหาพี่ชายตัวเอง เพราะท้ายที่สุด เหมือนพี่มันจะถูกตัดสินจากสังคมภายนอกมากกว่า จากบุคลิก ท่าทางเป็นตัวปัญหา มีหลักฐานว่าบูชาซาตาน อาจติดยาด้วย มีข่าวลือลวนลามเด็กอีก สรุปคือพี่มันโดนใส่ร้ายจากสังคมจนนางเอกให้การแบบนั้นออกไป หรือนางเอกมันช็อคและรวบรวมข้อมูลที่พี่มันโดนป้ายสีจนให้การว่าพี่เป็นคนทำ?
สืบไปสืบมา ไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้นจริงๆ ยกเว้นพี่ชายนาง และพยานปากสำคัญอีกรายนึงที่ไม่ใช่ Libby ...อันแน่ อันนี้ไปดูกันเองนะ ฮ่าาๆๆๆ 

คือสรุปแล้ว ถ้าฉันเป็นใครสักคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆนางตอนจบนะ ฉันนี่แหละจะตะโกนใส่หน้านาง
"YOU DON'T KNOW SHIT ABOUT WHAT HAPPENED THAT NIGHT!!!"
(...ถ้าแกจะตะโกนตัวหนาขนาดนี้...)
ความน่ารักของพี่มันคือ ยังไงพี่ก็เป็นพี่ Libby คือครอบครัวเดียวที่เหลืออยู่ ยังไงก็ต้องรักกันไว้ ไม่ว่าสิ่งดีหรือสิ่งร้ายจะเกิดขึ้นก็ตาม

สุดท้าย!
เนื้อเรื่องสนุกดี นักแสดงแจ่ม
บทเริดอยู่ คำพูดซ่อนเงื่อนตามสไตล์คนแต่ง ชอบตรงนี้ (คนแต่งมาจัดการเองขนาดนี้แล้วนี่นะ)
ติดตรงสไตล์หนังมันทริลเลอร์บ้านๆเกินไป ไม่ลุ้นไม่มันส์ (แกต้องการอะไรจากหนังละ) 

ก็ดูแบบไม่คาดหวังอะไรเยอะนะ
8/10
จัดว่าชอบ ถ้าคาดหวังมากระดับต้องการความพีคของหนัง
คะแนนอาจจะดรอปลงไปอีก2แต้ม 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น