วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559

ดูแล้วบ่น: Batman v Superman (2016)

*สปอยแน่นอน เตือนแล้วนะ*
Batman v Superman: Dawn of Justice (2016)
Directed by Zack Snyder
Cast: Ben Affleck, Henry Cavill, Amy Adams, Jesse Eisenberg, Gal Gadot, Jeremy Irons, Laurence Fishburne and Diane Lane

ไม่ค่อยจะอยากเขียนเรื่องย่อ เนื่องจาก...หนังมันไม่มีเรื่องราวอะไรเป็นชิ้นเป็นอันจะให้เล่าจริงๆนะ เพิ่งจะนึกได้ตอนเริ่มบ่นในบล็อกนี่แหละ ว่าเอ่อ...แล้วตูจะเล่าเรื่องย่ออย่างไรดีน้อ

เอาแบบสั้นๆง่ายๆ แบบไม่ต้องไปหาเรื่องย่ออะไรอ่านให้ปวดหัวเพิ่มความยากลำบากในชีวิต
คือ บรูซ เวย์น โกรธเคืองที่ซูเปอร์แมนพังเมืองราบเป็นหน้ากลอง (ลึกๆคือโกรธที่พังตึกพี่แกเละเป็นจุลนั่นแหละ ทำคนงานพี่แกตายงี้) เวลาต่อมาพี่แกเลย พยายามคิดหาวิธีที่จะปราบซูเปอร์แมน เพราะเกรงว่าพลังของเขาจะเป็นภัยต่อมวลมนุษย์ (แค่คิดจะล้างโลกพี่ซูปก็ทำได้ในพริบตาเลยนะ!)

และนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของมหาศึกครั้งใหญ่ระหว่างพระเจ้าและมนุษย์ (เสียงเซอร์ราวน์แบบอลังการ)
แน่นอนว่าในตัวอย่างเผยทั้ง เล็กซ์ ลูเธอร์ และ ดูมส์เดย์ ดังนั้นจึงไม่ต้องคิดไรให้ซับซ่อน อีสองตัวนี่แหละตัวร้ายของเรื่อง ที่ทำให้พี่แบทกับพี่ซูปแกหันมาจับมือกันเพื่อปราบเหล่าร้าย แถมได้ผู้ช่วยสาวสวยเสริมทัพอีกแรงอย่าง วอนเดอร์ วูแมนนนนน!!! (เอาจริงนะ ทั้งเรื่องเลยนะ อิเจ้เท่สุดอะไรสุด ปรากฎตัวมาทำสตันนิ่งตลอด)

โดยรวมแล้ว หลายส่วนเหมือนกันที่ค่อนข้างแปลกใจ และไม่เหมือนในตัวอย่าง ซึ่งในทางกลับกัน ตัวอย่างมันสนุกกว่าหนังจริงเยอะเลย คือ วิธีการตัดต่อมันเล่าเรื่องกันไปคนละแบบ พอมาเจอหนังจริงที่เรียบเรียงภาพและเหตุการณ์ต่างจากตัวอย่าง คราวนี้เลยยุ่งหนักเลย บางซีนนี่ถึงขั้นตั้งคำถามว่า เอ็งจะใส่มาทำไมมมมม โดยเฉพาะฉากที่มันฝันเฟื่องระหว่างรอข้อมูล แล้วจู่ๆก็มีใครไม่รู้จากอนาคตมาบอกข้อความซัมติ้ง... คือถ้าเคยอ่านคอมิกซ์อาจจะรู้ว่าทำไม และคนนั้นเป็นใคร แต่ฉันไม่เคยอ่านจริงจัง เคยอ่านบางถ้าเจอ และเคยดูเป็นการ์ตูน Justice League ในช่อง การ์ตูนเน็ตเวิร์ค อะไรงี้ ซึ่ง...ก็พอจะเดาได้แหละ ว่ามันต้องเป็นฮีโร่สักตัวจากอนาคต แต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าจะมาบอกสิ่งที่ "คนดู" รู้อยู่แล้วทำไม (อันนี้ต้องไปหาคำตอบเอาเองนะว่ามันพูดอะไร)

ซึ่งถามว่าสนุกมั้ย สนุกนะ เราชอบเลยล่ะ เฮนรี่ คาวิลล์ ภาคนี้หล่อดี ดูเท่กว่า Man of Steel เยอะเลย
(เดี๋ยวๆ ไม่ใช่ล่ะ)
คือในบางอารมณ์ภาพของ แบทแมน กับ ซูเปอร์แมน ในการ์ตูน JL ที่เคยดูมันแว๊บเข้ามาในหัวเลย
บางมุกก็ฮาดี แต่ฮาแบบยิ้มๆขำๆ (ไม่ได้ก๊ากแบบมาร์เวล) แล้วก็ผ่านไปเรื่องอื่นอย่างรวดเร็ว
อย่างนึงที่สนุกคือฉากสู้อันแสนจะวินาศสันตะโร เรียกได้ว่าบู๊มันส์สะใจมั้ย? ใช่ มันส์ แอบมีอารมณ์ดูไม่รู้เรื่องอยู่นิดหน่อย เพราะมันอึกทึกครึกโครมควันโขมงซะจนดูไม่ทัน (นี่เลือกใช้คำเว่อร์วังมากตามความตูมตามของเรื่องเลยทีเดียว)

เลยกลายเป็นว่าหนังเน้นความบู๊ เน้นการปะทะกันระหว่างฮีโร่กับฮีโร่ หรือ ฮีโร่กับตัวร้าย เส้นเรื่องหลักจริงๆที่หนังควรจะเล่า กลับหายไปกลายเป็นเส้นบางๆที่ถูกดำเนินเรื่องไปแบบ...เป็นอะไรที่คนรู้อยู่แล้วประมาณนั้น นั่นแหละข้อเสีย หนังเล่าเหมือนว่าคนดูจะต้องรู้อยู่แล้วว่า อ๋อ ไอ้นี่นะ มันเป็นใครนะ ไอ้มนุษย์ประหลาดในแฟ้มของลูเธอร์มันคือฮีโร่คนนี้นี่หว่า!

เราเชื่อว่าหลายคนที่อยากดูหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่แฟนคอมิกซ์ และต้องผิดหวังเมื่อหนังมันเล่าแบบเอาใจแต่แฟนคอมิกซ์จริงจัง ไม่ปูพื้น ไม่เล่าเรื่องใดๆให้รู้ทั้งสิ้น เปิดเรื่องมา เล่ากันแบบโจ๊ะๆมาก พ่อแม่เวย์น ตายนะ เกิดศึกระหว่าง ซูเปอร์แมนกับนายพลซอร์ด บ้านเมืองพังพินาศ แล้วก็ตามมาด้วยปมที่ใครสักคนพยายามใส่ร้ายป้ายสีซูเปอร์แมนให้ดูกลายเป็นอาชญากรบ้าพลัง ไม่ใช่ฮีโร่ผู้เป็นดั่งพระเจ้า

เพราะงั้นจึงไม่แปลกใจที่หนังจะได้เสียงตอบรับทั้งดีและไม่ดี (ได้มะเขือเทศเน่าไปนี่ตกใจมาก)

อย่างนึงที่รู้สึกได้กับหนังเรื่องนี้คือ มันมีความพยายามในการสร้างจักรวาลของตัวเองมากเกินไป พยายามใส่ปม ใส่เบาะแส อะไรต่างๆนาๆ ให้สามารถนำพาไปยังหนังเรื่องอื่นๆที่จะตามมา อันได้แก่ วอนเดอร์วูแมน อควาแมน และ Justice League ในภายหลัง ( เดอะแฟลช กับ ไซบอร์ก จะมีมั้ย ไม่แน่ใจ เดอะแฟลชน่าจะมี ส่วนกรีนแลนเทิร์นก็ได้ยินแว่วๆว่าจะทำ แต่เรื่องนี้ไม่ได้ทิ้งเบาะแสอะไรไว้เกี่ยวกับกรีนแลนเทิร์น) การใส่ปมพวกนี้เยอะไป มันเลยทำให้รู้สึกหนังถูกยัดเยียด และไม่เหลือเวลาที่จะเล่าเรื่องของ แบทแมน และ ซูเปอร์แมน แบบจริงๆจังๆ ซึ่งเราว่าถ้าตัดเบาะแสที่ทิ้งไว้เยอะแยะออกนะ หนังอาจจะเหลือเรื่องให้เล่าจริงๆแค่แบบ 2ชั่วโมง แทนที่จะเป็น 2ชั่วโมงครึ่ง ประมาณนั้น (ไม่รู้นะเดามั่วไปงั้น)

คือก็เข้าใจฝีมือผู้กำกับคนนี้แหละนะ ตั้งแต่ 300, Watchmen และ Sucker Punch คือบทจะยืดก็ยืดดดด ซะ พูดบ้าไรกันว่ะ บทจะตัดก็ฉึบฉับ... (โดยส่วนตัวเกลียด Sucker Punch สุด)
ดีงามจริงๆคือ Dawn of the Dead กับ Man of Steel ซึ่ง...ก็ไม่ได้ดีมาก แต่ก็ดีที่สุดในงานของพี่แกแล้วแหละ (​ซึ่งก็อีกแหละ DotD คือไม่ดีเท่าของเก่า ส่วน MoS บางช่วงก็ชวนหลับเสียไม่มี)

มาถึงตัวละครแต่ละตัวกันดีกว่า

ซูเปอร์แมน ดีงามพระรามแปดมาก บทจะเท่ก็เท่ซะ บทจะพระเจ้าก็แสงเรืองรอง บทจะกลายเป็นมนุษย์เพราะคริปโตไนท์ ก็ดูน่าสงสารสุด

แบทแมน ...เอิ่ม...อ้วน...อ่ะ! มันอ้วนอ่ะ มันตัวใหญ่ไปอ่ะ ! หูสั้นด้วย อย่างกับแมวอ้วน ไม่ใช่มนุษย์ค้างคาว! แต่เข้าใจแหละ วางเรื่องไว้ว่าเป็นแบทแมนตอนแก่ ปราบเหล่าร้ายมาตั้ง 20 ปี แถมโรบินก็ทำท่าว่าจะถูกปิดฉากไปแล้วด้วย (เดาจากชุดในตู้กระจก) นับว่าพี่เบนแกเล่นบทนี้ใช้ได้ อคติแง่ลบน้อยลงจากตอนรู้ข่าวนิดนึง แต่ไม่ถือว่าดีจนประทับใจ (พี่ลงทุนฟิตหุ่นมาเฟิร์มไปค่ะ)

เล็กซ์ ลูเธอร์ คือชอบมาก (ชอบเจสซี่แสดงแหละจริงๆแล้ว) ลูเธอร์เรื่องนี้ดูหลุดความเป็นลูเธอร์ไปหน่อย (อ้างอิงจากหนัง Superman ภาคเก่าทั้งหมดที่ ยีน แฮ๊คแมน เล่น รวมถึงภาคที่ เควิน สเปซี่เล่นด้วย) เรื่องนี้ลูเธอร์ดูแบบ โรคจิต ประสาท ดูเป็นเด็กเรียกร้องความสนใจ ฉันไม่ต้องการอะไรนอกจากเห็นพระเจ้าตีกับมนุษย์ที่ตั้งตนเป็นอัศวินแห่งรัตติกาล ได้ทำพระเจ้าเจ็บ ได้ทำพระเจ้าเสียใจ แค่นี้เฮียก็แฮปปี้แล้วววว (บ้าดี) เสียดายว่าหนังไม่ใส่เหตุผลให้ลูเธอร์เลยว่า ทำไมถึงอยากให้มันสู้กัน (นอกจากที่เห็นเรื่องความสะใจ) คือจู่ๆอีตัวละครนี้ก็โผล่มาแบบ ฉันจะเอาหินคริปโตไนท์ก้อนใหญ่อ่ะ มาทำอาวุธไว้สู้กับซูเปอร์แมนอ่ะ แกไม่ให้ฉันหรอ ระเบิดแม่งเลย (สว.โดนสอยซะงั้น)

โลอิส เลน...ไม่พูดถึงนางก็ไม่ได้ ถ้าไม่มีนางนี่หนังไม่จบนะเออ !!! คือ สังเกตตั้งแต่ภาคก่อนๆแล้ว นางคือตัวปัญหา คือหายนะของซูเปอร์แมน และรู้สึกเหมือนงานนี้นางจะเสี่ยงตายเกินหน้าที่มากกว่าปกติไปหน่อยนะ

สรุปเถอะนะที่รัก
หนังมีความดีงามในแง่มุมเล็กๆ ที่อธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าจุดไหนบ้าง เนื่องจากส่วนใหญ่แล้ว...
หนังมันเล่าเรื่องแบบฉากต่อฉากจนมึน จนไม่สามารถบอกได้ว่าเส้นเรื่องหลักและการเชื่อมต่อมันอยู่ตรงไหน คือโอเคแหละ มันทำให้หนังดำเนินเรื่องไปได้ แต่ขาดจุดเชื่อมโยงที่ทำให้คนดู(ผู้ไม่เก๊ดว่าไอ้พวกนี้มันคือใครและมันทำอะไรกัน) งงไปตามๆกัน พองงฉากนี้ ต่อไปอีกฉาก เอ้า ยังไม่ทันเข้าใจก็งงต่อ
เกลียดการคืนดีกันของฮีโร่มาก นี่ถ้าแม่ไม่ชื่อมาร์ธานี่ถึงตายเลยนะแกเอ๊ย ฮ่าาาๆๆๆๆๆ

สำหรับเรื่องนี้
7/10
คะแนนความชอบ หักส่วนที่พล็อตเรื่อง การเล่าเรื่อง ที่...ไม่ได้ช่วยให้เรื่องราวมันดูเร้าใจเลย
(และที่สำคัญคือทำร้ายซูเปอร์แมน แย่มากอันนี้ ฮ่าๆๆ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น