วันเมษาหน้าโง่ หรือ April Fool's Day
ก็ไม่แน่ในว่ามันกลายเป็นเทศกาลหรือวันฉลองอะไรสักอย่างไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เอาจริงๆก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าวัฒนธรรมของฝรั่งเขาทำอะไรกันในวันนี้ นอกจากแกล้งคนรอบตัว (ซึ่งจริงๆปกติ ก็เห็นเขากลั่นแกล้งกันอยู่เป็นธรรมดา แล้วฝรั่งก็ไม่ถือโทษโกรธกันเป็นเรื่องใหญ่โต)
และแน่นอนว่า พวกเราชาวไทย ผู้ร่วมเฉลิมฉลองในทุกเทศกาลที่โลกนี้มี ก็สุขสันต์วันโกหกกับเขาด้วย...
ฉันว่ามันเริ่มไปกันใหญ่แล้วแหละ แท้จริงแล้ววันเมษาหน้าโง่นี่มันมีพื้นเพอย่างไร ประวัติศาสตร์เกี่ยวกับมันก็ยังสับสนอยู่ เชื่อได้หรือไม่ก็ยังต้องคิดกันให้ปวดหัวต่อไป
และโดยส่วนตัวคิดว่าวันนี้มันก็แค่วันนึงที่ฝรั่งตั้งขึ้นมาเพื่อให้เป็นการเล่นสนุก คลายความเครียด ระบายความคับแค้นใจอย่างกับตบที่หัว แล้วลูบหลังปลอบว่า "โอ๋ๆ มันเป็นเรื่อง ล้อออ เล่นน~ น้าาา"
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ฉันก็คนไทยคนนึง แน่นอนว่าเคยเล่นสนุกไปกับวันมึนๆนี่เหมือนกัน
แต่มันกลับกลายเป็น "การพยายามจะเล่นสนุก" เสียมากกว่า อาจจะเพราะหลอกใครไม่เก่งมั้ง หรือไม่ก็ปกติเป็นคนไม่ขี้แกล้งขี้หยอก พอทำเป็นเล่นดันโดนหาว่าไม่จริง...สวยตรงนี้แหละค่ะ
ที่เจ็บสุดๆ แน่นอนว่ามุขคลาสสิกมาก นั่นคือ "บอกรักกับคนที่แอบชอบ" จำได้อย่างแม่นยำว่าทำไปสองครั้ง โดนดีทั้งสองครั้งเลยทีเดียว ไปบอกรักบอกชอบเขา ผลที่ได้กลับมาคือเขาไม่เชื่อว่าเราเล่นวันเมษาหน้าโง่ ไม่เชื่อว่าเราหลอกบอกรัก สุดท้ายก็โดนจี้จนโกหกต่อไม่เป็น
เงิบสิคะ จบกันตรงนั้นเลยทีเดียว
หลังจากนั้นก็มีแต่โกหกหยอกล้อเพื่อนเล็กๆน้อยๆ ขำขันกันไป แต่ไม่เคยคิดการใหญ่ในการจะแกล้งพูดอะไรกับใครอย่างนั้นอีกเลย
เรื่องแบบนี้ควรจะเจ็บแล้วจำแล้วไม่ทำอีกเลยนะ มันไม่ขำสักนิดกับการจะเล่นกับหัวใจตัวเอง (ก็โง่เองน่ะนะเอาจริง)
ยังไงก็ตาม ในทางกลับกันมันก็เป็นวันที่ทำให้คนได้ใช้สติมากที่สุดของปี ใครพูดอะไรมาก็จะไม่เชื่อๆๆๆๆ กันหมด
ดังนั้นวันนี้ก็ใช้สติกันดีๆ แต่ก็อย่าดีเกินไปจนโดนหลอกบอกความจริงแล้วไปเชื่อละ
นี่มันมากกว่าดาบสองคมแล้วละ ฉันว่าดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆเสมือนวันนี้มันไม่ใช่วันบ้าบออะไรมันก็ไม่ปวดหัวดีนะ
(บ่นอะไรหนอวันนี้)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น