วันอังคารที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ดูแล้วบ่น: Found. (2012)

**พยายามไม่สปอย...นะ คิดว่าจะไม่เผลอ ฮ่าๆๆ**
Found. (2012)
Directed by Scott Schirmer
Cast: Gavin Brown, Ethan Philbeck, Phyllis Munro and Louie Lawless

หนังสร้างจากหนังสือในชื่อเดียวกันของ Todd Rigney เรื่องราวของ Marty เด็กเงียบๆผู้ตกเป็นเหยื่อของเด็กเกเรในโรงเรียน รสนิยมการดูหนังสยองขวัญกลายเป็นเหมือนที่หลบภัยของเขาเวลาเจอวันแย่ๆ แต่แล้วชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไปตลอดกาลเหมือนในหนังที่เขาดู Marty ค้นพบความลับที่ซ่อนไว้ของคนทั้งบ้าน รวมถึงความลับของพี่ชายเขา Steve

ช่วง: ประโยคเด็ด คัดมาแล้ว
"My life is really is turning into a horror movie. And you know how they end." - Marty

จริงๆมีประโยคเด็ดกว่านี้แต่ถ้าเอามาคือ คุณไม่ต้องดูหนังหรอก มันเฉลยตอนจบเต็มๆเลย ฮ่าๆๆๆ

 นี่เป็นหนังสยองขวัญนะ สยองจิตใจเลยทีเดียว แต่ไม่ระทึก มันไม่ตื่นเต้นขนาดนั้น ออกแนวดราม่าหน่อยๆด้วยซ้ำ แต่ดราม่าแบบ Coming-of-Age อ่ะ เด็กๆวัยซนวัยต่อต้าน
และเตือนก่อนว่าดาร์คทีเดียว ดูแล้วหดหู่อยู่พักใหญ่ (ต้องรีบหาเพลงโลกสวยมาฟังโดยไว)

ชอบตรงความสยองมันมาแบบเงียบๆในบรรยากาศ ไม่กระโตกกระตากโวยวายจนน่ารำคาญ เด็ดสุดคือหนังทำให้เรารู้สึกขนลุก หนาวสั่น(ความจริงคือแอร์เย็น ฮ่าๆๆ) และอึดอัด แบบ...อยากลุกหนีอ่ะ แต่ทำไม่ได้หนังสนุก ฮ่าาๆๆๆ
สนุกจริงๆนะ มันดูเรื่อยๆ อยากรู้อยากเห็นไปกับเด็กว่าพี่ชายมันจะทำอะไร อยากเห็นวิธีฆ่าคนของพี่ชายงี้(ซาดิสละอันนี้) อยากรู้ว่าพี่มันจะทำยังไงเมื่อน้องรู้ อยากรู้บทสรุปของการมีพี่เป็นฆาตกรโรคจิตของมัน
(สปอยอะเลิ๊ดดด เล็กๆพอประมาณ อ่านไปเถอะไม่ได้ช่วยให้เสียอารมณ์เท่าไหร่)
สุดท้ายหนังก็จบแบบ...หนังสยองขวัญเก๋ๆ ไม่มีตำรวจ ไม่มีเพื่อนบ้าน ไม่มีคำตอบ ตายคือตาย รอดคือรอด ไม่ต้องหาบทสรุป นอนจมกองเลือดอยู่แบบนั้นแหละ ชีวิตมันจะเป็นยังไงก็ไปคิดกันเอาเองละกัน
พีคสุดคือฉากฆาตกรรมสุดท้าย ไม่เห็นเลยนะว่ามันทำอะไร ให้ดูแต่หน้าเด็กแบบเต็มเฟรม ละก็ตัดสลับกับช่องประตูมืดๆ ทั้งหมดปกคลุมไปด้วยเสียงกรีดร้อง เสียงโวยวาย เสียงกระอักเลือด และความเงียบ............................................................................................................. (เงียบยาวๆเลยจริงๆ)

เก๋ตรงนี้~ ชอบๆ มันให้ฟิลเหมือนดูหนังสยองขวัญโบราณ หรือหนังคัลท์ยุค50-90อะไรแบบนั้น เตือนความจำตัวเองตลอดเวลาเลยว่า นี่ตูกำลังดูหนังปี2012นะคะ ทันสมัยหน่อย
เอาจริงๆในหนังออกจะย้อนยุคหน่อยๆด้วยนะ ยังเช่าวิดิโอเทปกันอยู่เลยเหอะ

นี่คือแค่มุมของหนังสยองขวัญ ดีงามมาก มาเรียบๆแต่เรียกความหวั่นผวาได้ดี

*คำเตือน: นี่เป็นความคิดส่วนตัวล้วนๆ และบ่นแบบ...บางทีก็ไม่รู้ว่าบ่นอะไร ฮ่าๆๆๆๆ*
มาดูความดราม่ากันดีกว่า
รอบตัวMartyนี่ มันน่าาาา พาให้เด็กใจแตกจริงๆ ตอนแรกนึกอยู่ว่ามันจะมีบทสรุปเหมือนพี่ชาย แต่นึกได้ว่าคงไม่มั้ง ไม่งั้นมันจะเป็นตัวเอกได้ไง(เปลี่ยนความคิดแบบง่อยๆ ฮ่าๆๆ)
คือมันเจอปัญหา ทั้งที่โรงเรียน ที่บ้าน แม้แต่โบสถ์ก็ยังเจอ(ในเรื่องไม่เชิงเป็นโบสถ์หรอก เป็นที่ชุมนุมฟังเทศน์ไรงี้มากกว่า) แถมยังชอบหนังสยองขวัญอีก
แววความเปลี่ยนแปลงในตัวเด็ก12ขวบคนนี้เริ่มมาละ แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดไว้
แม้จะชื่นชมพี่และเริ่มมีความคิดต่อต้านหัวรุนแรง แต่Martyก็ยังเป็นเด็ก เขายังไม่พร้อมที่จะเผชิญทุกสิ่งที่พี่ชายเสนอ แต่ก็ไม่มีอำนาจและกำลังพอที่จะหยุดการกระทำของพี่ชาย

เมื่อแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ สิ่งเดียวที่Martyทำได้คือ สงสัย ได้แต่คาดเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไป
อย่างที่พวกเราทุกคนกำลังทำกันทุกวันนี้นั่นแหละ ได้แต่เดาว่าวันข้างหน้าจะเป็นไง(เกี่ยวไรว่ะ?)
เหมือนไม่เกี่ยว แต่คิดให้เกี่ยวก็ใช่ ฮ่าๆๆๆ
เด็กจะไม่สงสัยในวันข้างหน้าไง เด็กจะคิดแค่ว่าถ้าพวกเขาทำสิ่งนี้ แล้วมันจะถูกหรือผิด? ผลที่ตามมาคือดีหรือไม่ดี อย่างถ้าต่อยเด็กเกเรกลับแล้วชีวิตมันจะดีขึ้นจริงหรอ? จะเจอปัญหาอะไรหลังจากนี้ละ? จะโดนทำโทษมั้ย? แล้วทำแล้วมันจะหยุดรังแกฉันมั้ย? นี่คือปัญหาหลักที่Martyพยายามคิดมาตลอดครึ่งเรื่องแรก
แต่เมื่อMartyตัดสินใจก้าวผ่านความคิดแบบเด็กๆ และตัดสินใจต่อยคนที่รังแกเขากลับ สิ่งเดียวที่Martyตั้งใจหลังจากนี้ไปคือ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาคือผู้ชนะ (อันนี้เริ่มเป็นความคิดที่น่ากลัวละ)
กระทั่งจุดเปลี่ยนมาถึงในคืนนั้น ที่พี่ชายมันเริ่มอาละวาดนั่นแหละ ความคิดการเอาชนะก็หดกลับไปและเหลือแต่เด็กตัวน้อยๆตามเดิม ตรงนี้โหด(คือจุดพีคที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ และจะไม่เล่าเดี๋ยวหมดสนุก)
พอผ่านคืนนั้นมา นั่นแหละ ที่Marty เริ่มคิดแบบ การสงสัยคาดเดา ที่แย่คือ...มันไม่มีคำตอบ

หนังดี งาม ภาพสวยแบบสื่อความได้ชัดเจน สัญญะง่ายๆ เห็นปุ๊บถึงขั้นร้องอ๋อ
มีจุดพลิกผันให้อึ้งทึ่งบ้าง แต่ไม่มีสรุปให้ เชิญคิดเอาเอง เอาที่ชอบ
บทดีงาม การแสดงดีงามระดับที่จัดว่าเหมาะมากสำหรับหนังแบบนี้
โดยเฉพาะ Gavin Brown เด็กที่แสดงเป็น Marty น้องอนาคตไกลแน่ กับหนังอินดี้น้องดังแน่ (หนังใหญ่ของให้คิดอีกที ยังไม่น่าจะได้บทดีๆในเร็วๆนี้)

บ่นมาก็เยอะ สำหรับความสยอง
10/10
...นะจ๊ะ จบเลย (ใครจะหักคะแนนตรงไหนก็แล้วแต่ละกัน ฉันจะให้แบบนี้ ฺฮ่าๆๆๆ)

เม้ามอยของแถม

หนังสยองขวัญที่ Marty อยากดูและหาในร้านเช่าไม่ได้ แต่ดันไปเจอในห้องพี่ชายคือเรื่อง Headless ซึ่งเป็นแรงบรรดาใจในการฆ่าคนของ Steve ผู้เป็นพี่
ตอนนี้ Headless เป็นหนังจริงๆแล้วนะเออ ฉายในอเมริกาไปเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2015 นี่เอง
ใช้นักแสดงอย่าง Shane Beasley เล่นเป็นฆาตกรหน้ากากกะโหลก คนเดิมกับที่อยู่ใน Found. นี่แหละ
แอบไปอ่านรีวิวมา น่าดูเหมือนกัน เดี๋ยวจะจัดทีหลัง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น