วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ดูแล้วบ่น: St.Vincent (2014)

St. Vincent (2014)
Directed by Theodore Melfi
Cast: Bill Murray, Jaeden Lieberher, Melissa McCarthy and Naomi Watts

โอลิเวอร์และแม่ของเขาย้ายบ้านมายังชุมชนใหม่ นอกจากสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นตา ที่ทำงานใหม่ เพื่อนใหม่ที่โรงเรียน ทั้งสองยังต้องรับมือกับ วินเซนท์ ชายแก่ใจร้ายซึ่งเป็นเพื่อนบ้านขี้โมโหของพวกเขา วินซ์ มีปัญหาทุกอย่างในชีวิตแทบจะครบครัน ติดเหล้า ติดบุหรี่ ติดพนัน ถังแตก แถมยังต้องดูแลคุณตัวที่ท้องอีกด้วย แทบจะเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนบ้านที่เด็กอย่างโอลิเวอร์ไม่ควรเข้าไปยุ่งด้วยเอาเสียเลย
แต่เมื่อโอลิเวอร์ได้รู้จักวินซ์มากขึ้น เขาก็สามารถค้นพบด้านดีๆของวินซ์ที่ไม่เคยมีใครมองเห็นมาก่อน

เห็นชื่อ Bill Murray กับ Melissa McCarthy แล้วอย่าคิดว่านี่จะเป็นหนังตลกโปกฮาเชียว
เพราะมันไม่ใช่! มันเป็นหนังดราม่าฟิลกู๊ดที่น่ารักมากทีเดียวแหละ
มีตลกนิดๆหน่อยๆพอเป็นกระสายให้ขำขัน (หรือจริงๆแค่เห็นหน้าBillก็ขำแล้ว)

โดยส่วนตัวชอบหนังสไตล์นี้อยู่แล้วนะ ฟิลกู๊ดสู้ปัญหาชีวิต ดูแล้วยิ้มบางๆพอให้ชุ่มชื่นหัวใจ
อันนี้ออกแนวคนแก่ช่วยเด็ก แล้วเด็กก็ช่วยคนแก่ ตัวละครในเรื่องค่อนข้างประสบความล้มเหลวอย่างร้ายแรงเรื่องของการมีครอบครัวที่อบอุ่น แต่แล้วทุกคนก็เติมเต็มกันและกัน ที่แม้จะเป็นประหลาดๆ พังๆไปบ้าง ขาดๆเกินๆ แต่ก็กลายเป็น "ครอบครัว" ที่ดี

สิ่งนึงที่ชอบสุดๆเลยคือคำพูดของวินซ์ที่ว่า
"I'm showing him how the world works."
(จริงๆต้องต่อด้วย You work, you get paid, you drink. แต่มันไม่ได้ช่วยให้ประโยคดูดีขึ้นเลย ฮ่าๆๆ)

บทบาทสำคัญของวินซ์ก็อยู่ในประโยคนั้นแหละ
คนเราต้องสู้ ต้องทน ต้องดิ้นรน แน่นอนว่าชีวิตไม่ได้ดีเสมอไป ช่วงท้อแท้เล็กๆน้อยๆ หนักหนาสาหัส หรืออบจนหนทางขนาดไหน ยังไงมันก็ต้องเกิดกับทุกคน ยิ่งลุงแกผ่านวันผ่านคืนมาโชคโชนขนาดนี้ มันต้องมีแทบจะครึ่งชีวิตของแกแหละน่า
และแม้จะเจอเรื่องร้ายๆ แต่เมื่อผ่านมันไปได้ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง ถึงมันจะไม่ดีเลิศสุดๆในสายตาใคร แต่แค่มันดีกว่าพายุชีวิตที่ผ่านมาก็เรียกได้ว่าดีเกินพอแล้วแหละ
เรียกง่ายๆว่า "ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้นกันต่อไป" และสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราดิ้นกันต่อไปได้ก็คือคนรอบข้าง กำลังใจและความช่วยเหลือสำคัญมาก ในวันที่เราลุกไม่ไหวคนพวกนี้จะช่วยเราเดิน หรือวันที่ทุกอย่างเริ่มน่าเบื่อขาดความสดใส คนพวกนี้จะช่วยทำให้แต่ละวันเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

แต่เหนือทุกสิ่งทุกอย่างที่กล่าวมา ถ้าวินซ์ไม่ใช่คนใจดี มีด้านอ่อนโยนให้เห็น ก็อย่าหวังเลยว่าชีวิตจะดีขึ้น จะไม่มีใครช่วยพยุงเราแน่เมื่อเราต้องการ (อารมณ์คล้ายๆลุงสครูจจอมขี้เหนียว เมื่อใดที่ลุงแกใจบุญ ใครๆก็รักแกทั้งนั้นแหละ)

และทั้งหมดนั้น คือบทบาทที่วินซ์ สอนโอลิเวอร์ และสอนพวกเราด้วย :)

โอเค...โดยรวมแล้วหนังน่ารักทีเดียว
เพลงเพราะและภาพสวยแน่นอน บทดีมาก เล่าเรื่องง่ายๆไม่ซับซ้อน บทตลกก็ขำๆพอประมาณ ซึ่งก็เหมาะสมแล้วกับความสามารถของดาราใหญ่ๆที่แสดงในเรื่อง
Bill Murray แสดงดีแน่ล่ะ ทำให้รู้สึกหลากหลายกับตัวแกดี ทั้งสงสาร ขำ ชื่นชม แต่ด้านลบคงคิดไม่ลงอ่ะ บทแกดีเกินไป ความน่าสงสารมันเยอะเป็นพิเศษ
Melissa McCarthy กลายเป็นตัวประกอบซะงั้น แต่ก็ยังเล่นดี หลังๆเริ่มสนใจหนังเจ๊แกล่ะ แม้บางเรื่องจะตลกปัญญาอ่อน แต่ก็มีด้านดีๆฟิลกู๊ดให้เห็นบ้าง แต่เรื่องนี้ไม่มีความปัญหาอ่อนนะๆ
เซอร์ไพร์ส Naomi Watts สุดๆ ทั้งสำเนียง หน้าตา ท่าทาง ดูไม่ได้เลย ฉันว่านางนี่แหละตัวตลกยิ่งกว่าดาราตลกสองคนแรกอีก
ที่ต้องชมสุดๆเลยคือ เจ้าหนู Jaeden Lieberher ในบท โอลิเวอร์ เล่นได้น่ารักมาก ดูสมเป็นเด็กฉลาดชาติเจริญ ที่สำคัญคือเล่นคู่กับ Bill Murray ตัวต่อตัวหลายซีนนะจ๊ะ แถมไม่โดนรัศมีความเมพของลุงแกกลบอีกด้วย

สุดท้ายนี้...
เอาไป 8/10
สำหรับหนังแนวเดียวกันแล้วคือดีงาม ไม่ถึงขั้นเลิศเลอ แต่น่ารัก ฟิลกู๊ด มุ้งมิ้งฟรุ้งฟริ้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น